พิกัด 7 ปราสาทหินในไทย สวยงามเหนือกาลเวลา ควรค่าแก่การไปชม

เปิดประตูสู่ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของอาณาจักรขอมโบราณในเมืองไทย คุณจะได้พบกับ ปราสาทหินในไทย ที่ไม่ได้เป็นเพียงซากปรักหักพัง แต่คือมรดกทางสถาปัตยกรรมที่เปี่ยมด้วยความงดงามและเรื่องราวให้น่าเรียนรู้ การเดินทางไปสัมผัสความยิ่งใหญ่เหล่านี้ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือการย้อนเวลาสู่ยุคทองแห่งศรัทธาและความรุ่งเรือง บทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจ 7 ปราสาทหินในไทย ที่สวยงามเหนือกาลเวลา พร้อมแนะนำตัวช่วยที่จะทำให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

1. ปราสาทหินพิมาย แห่งแดนอีสาน

ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นตั้งแต่พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และต่อเติมในสมัย พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู และภายหลังในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้ปรับเปลี่ยนเป็นพุทธสถานแบบมหายานที่ยิ่งใหญ่

จุดเด่น: สิ่งที่ทำให้ปราสาทหินพิมายมีเอกลักษณ์คือการวางผังที่หันหน้าไปทางทิศใต้ แตกต่างจากปราสาทขอมทั่วไปที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ภายในประกอบด้วยปราสาทประธานที่ประดับลวดลายแกะสลักอันวิจิตรบรรจง โดยเฉพาะภาพจำหลักบนทับหลังที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากมหากาพย์รามายณะและพุทธประวัติได้อย่างงดงาม

2.ปราสาทหินพนมรุ้ง อรุณรุ่งแห่งเทวะ

ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟพนมรุ้งที่ดับสนิทในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ปราสาทพนมรุ้งถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะ โดยตัวปราสาทประธานทำจากหินทรายสีชมพู งดงามตามศิลปะขอมแบบบาปวนและนครวัด การก่อสร้างดำเนินต่อเนื่องตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15–18 และมีความสมบูรณ์สูงสุดในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2

จุดเด่น: ปราสาทพนมรุ้ง โด่งดังไปทั่วโลกจาก “ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ขึ้นสาดส่องลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน” ซึ่งจะเกิดขึ้นปีละ 4 ครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความอัจฉริยะด้านดาราศาสตร์และวิศวกรรมของคนโบราณ นอกจากนี้ ลวดลายแกะสลักบนหน้าบันและทับหลังมีความละเอียดประณีต โดยเฉพาะทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ถือเป็นชิ้นเอกของศิลปะขอม

3. ปราสาทเมืองต่ำ งดงามในความเรียบง่าย

ตั้งอยู่ที่ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ห่างจากปราสาทพนมรุ้งเพียง 8 กิโลเมตร ปราสาทเมืองต่ำสร้างขึ้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เพื่อใช้เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ตามศิลปะขอมแบบบาปวนที่เน้นความเรียบง่ายแต่สง่างามและสมมาตรในทุกมุมมอง

จุดเด่น: โดดเด่นด้วยผังปราสาทที่จัดเรียงสมมาตรอย่างงดงาม ล้อมรอบด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ทั้งสี่มุมซึ่งใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา บันไดนาคทอดยาวลงสู่สระน้ำสร้างบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ เงียบสงบ และร่มรื่น ชวนให้ผู้มาเยือนสัมผัสมนต์ขลังของสถาปัตยกรรมโบราณอย่างลึกซึ้ง

4. ปราสาทศีขรภูมิ ปราสาทหินแห่งความศรัทธา

ตั้งอยู่ที่อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ปราสาทศีขรภูมิเชื่อว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 17 ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เดิมใช้เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู นิกายไศวะ ก่อนจะได้รับการดัดแปลงเป็นพุทธสถานในยุคต่อมา

จุดเด่น: สิ่งที่ทำให้ ปราสาทศีขรภูมิ น่าสนใจคือลวดลายแกะสลักบนผนังปราสาทที่เล่าเรื่องราวทางศาสนาและความเชื่อโบราณมากมาย เช่น ภาพพระศิวะ พระนารายณ์ และพระพรหม ทำให้การมาเยี่ยมชมที่นี่ไม่ใช่แค่การชมสถาปัตยกรรม แต่เป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชนชาติขอมไปพร้อม ๆ กัน

5. ปราสาทหินพนมวัน ปราสาทหินแห่งโคราช

ปราสาทหินพนมวัน ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา เป็นปราสาทหินอีกแห่งที่สำคัญไม่แพ้ปราสาทพิมาย สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และ 2 เช่นกัน โดยเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะ ตัวปราสาทประธานมีลักษณะเป็นปราสาทศิลาแลงและหินทราย

จุดเด่น:ปราสาทหินพนมวัน มีลวดลายแกะสลักที่งดงามและละเอียดอ่อน แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะขอมในยุคนั้น นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่สงบและร่มรื่น เหมาะแก่การมาพักผ่อนและเรียนรู้ ทัศนศึกษาในด้านประวัติศาสตร์

6. ปราสาทหินสระกำแพงใหญ่ ร่องรอยความรุ่งเรืองแห่งยุคเก่า

ตั้งอยู่ที่อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ปราสาทหินสระกำแพงใหญ่มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยขอมโบราณ เดิมเชื่อว่าเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ก่อนจะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ราวพุทธศตวรรษที่ 18 ให้เป็นพุทธสถานแบบมหายาน และเป็นหนึ่งในอโรคยาศาลหรือสถานพยาบาลโบราณที่สร้างกระจายอยู่ทั่วอาณาจักร

จุดเด่น: โครงสร้างมีความซับซ้อนและสง่างาม ปราสาทประธานตั้งอยู่กลางลานภายในกำแพงแก้ว รายล้อมด้วยอาคารและวิหารขนาดเล็กหลายหลัง แสดงถึงศักยภาพด้านการก่อสร้างและความเจริญทางสังคมของอาณาจักรขอมในยุคนั้น

7. ปราสาทตาเมือนโต๊จ ประตูสู่เส้นทางโบราณ

ปราสาทตาเมือนโต๊จ ตั้งอยู่ที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นหนึ่งในกลุ่มปราสาท “ตาเมือน” ที่ตั้งเรียงรายใกล้ชายแดนไทย–กัมพูชา สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เพื่อเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู มีขนาดเล็กกว่าปราสาทตาเมือนธม แต่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์เพราะตั้งอยู่บนเส้นทางโบราณที่เชื่อมเมืองพระนครกับดินแดนฝั่งอีสาน

จุดเด่น: แม้มีขนาดไม่ใหญ่ แต่โดดเด่นด้วยทับหลังและกรอบประตูที่ยังคงลวดลายชัดเจน โดยเฉพาะลายเทพเจ้าและเถาวัลย์ขอมแบบบาปวน ทำให้เห็นฝีมือช่างโบราณอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งบนเนินสูงท่ามกลางป่าโปร่งยังให้วิวกว้างไกลของเทือกเขาพนมดงรัก

จัดทริปศึกษาประวัติศาสตร์ เดินทางสะดวกสบายด้วย DASH MV

การเดินทางท่องเที่ยวชม ปราสาทหินในไทย ทั้ง 7 แห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละแห่งตั้งอยู่ห่างไกลกัน การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวอาจทำให้เหนื่อยล้าและไม่สะดวกสบายมากนัก แต่ถ้าหากคุณเลือกใช้บริการรถบัสเช่าจาก DASH MV คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

รถบัส DASH MV ออกแบบมาเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ภายในรถกว้างขวาง นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีทีมงานคนขับที่มีประสบการณ์ ทำให้การเดินทางของคุณปลอดภัยและราบรื่นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดินทางเป็นกลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ DASH MV ก็มีรถบัสให้เลือกหลากหลายขนาด ทำให้คุณสามารถเลือกใช้บริการที่เหมาะสมได้อย่างลงตัว รับใบเสนอราคา

DASH MV

บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้า
จากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล
และมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความ
ปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก